Download
ลูกผู้ดีในคราบโสเภณี! ไม่ทราบว่ามหาลัยส่งมาฝึกงานหรือมาหาผัว (มีหลักฐานนัดเยกับผัวเรา)ลูกผู้ดีในคราบโสเภณี! ไม่ทราบว่ามหาลัยส่งมาฝึกงานหรือมาหาผัว (มีหลักฐานนัดเยกับผัวเรา)
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ขอออกตัวก่อนเลยว่าไม่เคยคิดว่าจะต้องมีเรื่องเฮียๆเกิดขึ้นกับชีวิตตัวเองจนต้องมาตั้งกระทู้ นึกทีไรมันก็เจ็บแปลบที่ใจทุกทีเพราะครั้งหนึ่งเราเคยถูกสาวน้อยในชุดนักศึกษาโปรไฟล์ลูกผู้ดีตีนแดง พ่อแม่ขับเบ๊นซ์มาส่งในวันแรก ฉกผัวไปอย่างเงียบๆ
อิชั้นนี่อยากเอาตีนลูบหน้าบรรดาผู้ชายตั้งแต่บอสใหญ่ บอสรอง เรื่อยมายันหัวหน้าแผนกอย่างผัวเราจริงๆที่ หลงชื่นชมนังเด็กคนนี้ ภายนอกก็ดูใสดีหรอกค่ะ แต่งหน้าบางๆ กระโปรงพลีทยาวครึ่งแข้ง แต่ถ้าพวกเธอได้เห็นบทเลิฟซีนที่นางคุยกับผัวเรานะ อือหือ..อยากจะบอกว่ากะหรี่เบอร์ตองก็มิปาน(อันนี้แค่น้ำจิ้มนะคะ)
ความเฮียมันอยู่ตรงที่นางเข้ามาก่อนเราลาคลอดพอดีประมาณ 1 เดือน ก็รู้จักกันพอควร เพราะผัวเราเป็นหัวหน้าแผนก มีโอกาสได้ดูแลสอนงานกันอยู่บ่อยๆ แล้วชีก็ต้องตำตาอยู่แล้วว่าหัวหน้ามีเมียใกล้คลอด ประครองขึ้นลงบันไดอยู่ทุกวัน แต่มันสองคนก็ยังทำได้ลง เอ้อ!ลืมไป ผัวเราก็คงคันมากนั่นแหละ เมียท้องแก่ไง (นี่นางเริ่มออกลายหลังจากเราลาคลอดไม่ถึงสัปดาห์ ดีออกกกกก)
*ขอบอกก่อนนะคะว่าถ้าใครคิดว่าเป็นคนรู้จักเรา หรือรู้จักนางเด็กนั่น เงียบไว้จะดีกว่า...*
*เพราะการแฉครั้งนี้ปราณีที่สุดแล้ว รับรองไม่มีหลุด แค่เราขอทวงคืนความแค้นบ้างเถอะ*
แค่ช่วงเริ่มก็ไม่ธรรมดาแล้วมั้ยล่ะ สงสัยชีจะจ้องมานานพอเหยื่อหลุดออกจากถ้ำได้ก็แทบจะตวัดหางลากลงน้ำเลยต่อจากนี้นางก็ทอดสะพานนัดเจอกันจริงๆ ค่ะ คือช่วงนั้นเราเพลียมากเพราะเป็นท้องแรก ยังตั้งตัวไม่ถูก เลยไม่ได้สนใจมากนักว่าเขาจะไปไหนมาไหน ขอแค่กลับมานอนบ้านก็พอ แต่ก็เริ่มอ้างว่าติดประชุมมากขึ้น พบลูกค้า หรือ ส.-อา.ขอไปเจอเพื่อนมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่เพื่อนสนิทเค้าเราก็รู้จักแทบทุกคน และคนอื่นก็เหมือนใช้ชีวิตเช็คอินเหมือนเดิมตามคอนโด
จนในที่สุดเหมือนพระแม่กาลีจะรับไม่ได้กับพฤติกรรมสำส่อน ดลจิตดลใจให้เราเริ่มหูตาสว่างขึ้นจนได้ เพราะเราตัดสินใจทักเพื่อนรุ่นพี่ที่ไม่ค่อยได้คุย แต่คุณสามีอ้างว่าจะไปหา (สมุติว่าชื่อ อ.)
พอได้มาคุยกันตอนหลัง พี่ อ. บอกว่าตอนนั้นคิดว่างานเข้าแน่ๆ เล่นเอาชื่อไปอ้างแบบไม่เตี๊ยมก่อน แต่ก็ไม่อยากให้เพื่อนมีปัญหา เลยรีบไปโทรหาเพื่อนคนอื่นให้หาทางหนีทีไล่ไว้ ส่วนไอ้ตัวต้นเรื่องก็ยังโทรไม่ติดเหมือนเดิม จนเราพาลูกไปหาหมอเอง กลับมานั่งไกวเปลถึง 5 ทุ่ม ฮีก็เดินกึ่มๆ กลับเข้ามา หอมเราไป 1 ฟอด พร้อมกับบ่นๆว่าโทรศัพท์แบตหมด กินอะไรยัง ไม่รู้จะซื้อไรมาให้
เรานั่งหันหลังให้ตอนนั้นน้ำตาไหลพราก เริ่มรู้สึกถึงความแหลในน้ำเสียงที่พยายามปั้นให้เหมือนเดิม เหมือนจะแน่ใจว่าเค้าไปที่อื่นแน่นอนแต่ก็ยังไม่มีหลักฐาน และที่สำคัญ! ไม่คิดสักนิดด้วยนะจะเป็นเพราะลีลาของแม่นักศึกษาสาว คิดอย่างร้ายที่สุดก็แค่คงไปติดโสเภณีตามอาบอบนวด
=คุยที่บ้าน=เรา : ลูกไม่สบาย...
สามี : อ่าวหรอ เป็นอะไรไป ให้กินยาหรือหาหมอหรือยัง
*เพล้งงง หน้านี่ชาไปหมดเลย เริ่มชัดเจนแล้วใช่มั้ยว่ามันไม่ได้ไปหาเพื่อนรุ่นพี่คนนั้น*
เรา : มีไข้ เลยงอแงทั้งบ่าย พี่ อ. เป็นยังไงบ้าง ไม่ได้เจอนานเลยตั้งแต่ท้องสามี : โอ้ย..รายนั้นโม้เก่งเหมือนเดิมแหละ
*เพล้งงงที่สอง เป็นไปได้หรอว่าพี่แกจะลืมว่าต้องส่งข่าวลูกเราป่วย*
แล้วมันก็ประจวบเหมาะพอดีที่ฮีกึ่มกลับบ้านมา และทำท่าชาร์จโทรศัพท์ทิ้งไว้ในห้องรับแขก ก่อนไปอาบน้ำแล้วนอนหลับไปเลย เราเลยรีบเปิดโทรศัพท์ดู แน่นอนค่ะ..ตั้งรหัสผ่าน แต่ด้วยความที่อยู่กันมานานจนจับทางถูก เราเดารหัสได้! และแล้วก็ผ่าง ผ่าง ผ่างงงง หูตาสว่างแบบไม่ต้องซดส้มตำเลย หลักฐานชัดล้านเปอร์เซ็นต์ ลงให้ดูรัวๆ คัดมาเน้นๆ
Advertisement
ก็นี่แหละค่ะ ทุกอย่างแหกออกมาหมดเลยว่าภายใต้ประโปรงยาวคลุมเข่าซ่อนความคันไว้แค่ไหน (คนของเราก็ใช่ย่อย) ที่หายตัวบ่อยๆ ก็เพราะไปตามรับส่งกันอยู่นี่เอง ไหนจะแผนสูงส่งลงให้เดินเข้าออฟฟิศเองอีก แต่หลายคนก็เริ่มระแคะระคายนะคะ จนสุดท้ายเราตัดสินใจเอาแชทแทบทั้งหมดมาประจานลงเฟซบุ๊กตัวเอง ขาเม้าส์มาเต็ม รู้สึกฉลาดขึ้นอีกเยอะ
สุดท้ายสามีคนดีก็มาขอร้อง อ้อนวอนให้ลบทุกอย่างออกให้หมด เพราะโดนบอสใหญ่เรียกคุยด้วยตัวเอง อีกทั้งน้องนักศึกษาอาจจะไม่ผ่านการฝึกงานเอาได้ เพียงเพราะการกระทำเล่นๆ ชั่ววูบ ไม่คิดอะไรจริงจังของฮี (หรออออ... นี่แหลอยู่ใช่มั้ยคะ)
และนี่ก็เป็นบทสนทนาที่นางคงรวบรวมความกล้ามาคุยกับเรา ก่อนจะเงียบหายไปและส่งผัวเรามาเจรจาแทน เมื่อไม่สำเร็จก็ตกเป็นภาระของรองบอสมาเกลี้ยกล่อม หนึ่งคำที่จุกมากก็คือพ่อแม่ของนางค่อนข้างนามสกุลดัง ฝากฝังลูกสาวมาให้ดูแล อย่าให้มีปัญหาเลยนะ สังคมตรงนี้ค่อนข้างสว่าง #เหอะ รวยแล้วแย่งผัวใครก็ได้หรอคะ?
ในที่สุดตอนนั้นเราก็ตัดสินใจลบการแฉทุกอย่างออกจากเฟซบุ๊ก แต่ก็คงตกเป็นขี้ปากเพื่อนเราและเพื่อนสามี รวมถึงเพื่อนที่ทำงานไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย ส่วนน้องหนูพลีทยาวก็ทำเรื่องย้ายสถานที่ฝึกงานแทบไม่ทัน
วันนี้ที่ตัดสินใจมาตั้งกระทู้อีก ก็เพราะยังรู้สึกแค้นไม่หาย เหมือนไม่ได้รับความยุติธรรม เพราะทุกคนทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ก็ได้แต่ขอมาระบายในพื้นที่ที่ไม่มีคนรู้จักนี้ หวังว่าจะช่วยเตือนใจสตรีทุกนางบ้างนะคะว่าพูดชายปากหวาน พูดจาคะขา เบื้องหลังก็มีมุมเฮียๆบ้างเหมือนกัน แต่เราก็ยอมที่จะให้อภัยเพราะเห็นแก่ลูก
ปล. น้องพลีทยาวย้ายที่ฝึกงานใหม่ ก็แว่วว่าไปฉกผัวรุ่นพี่อีกคน
ปล. ลูกเราจะ 1 ขวบแล้วนะ เรื่องเกิดค่อนข้างนาน แต่ยังเจ็บอยู่ดี
แสดงความคิดเห็น